5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องปั๊มนม เรื่องที่คุณแม่ยุคใหม่ห้ามมองข้าม
ในปัจจุบันเรื่องเกี่ยวกับน้ำนมแม่มีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงไปมากเครื่องปั๊มนมก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำสต๊อกน้ำนมของคุณแม่สมัยใหม่มากยิ่งขึ้น การเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าสักเครื่องจึงต้องมีการศึกษาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ เพื่อให้การใช้งานตรงตามที่คุณแม่ต้องการ และไม่ต้องเปลืองงบประมาณในการเปลี่ยนเครื่องปั๊มน้ำนมบ่อย ๆ วันนี้เราจะพาคุณแม่ยุคใหม่ไปรู้ 5 เทคนิคพื้นฐานที่คุณแม่จะต้องรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์ตัวนี้
1. ขนาดของเครื่องปั๊มนมมีความเหมาะสมกับการใช้งาน
อยากให้คุณแม่ทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่า การที่เครื่องปั๊มนมมีหลายขนาดให้เลือกก็มีความหมายสำคัญ หากว่าคุณแม่ปั๊มนมอยู่ที่บ้านสามารถเลือกใช้เครื่องสำหรับตั้งโต๊ะได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากว่าคุณแม่เป็นคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วย การเลือกซื้อขนาดพกพาก็จะเป็นอะไรที่สะดวกมากกว่า เพราะไม่ต้องถือเครื่องหนัก ๆ ไปทุกที่ นอกจากตัวเครื่องแล้ว คุณแม่ควรจะเลือกกรวยที่อำนวยความสะดวกให้มากที่สุด สมัยนี้มีกรวยแบบ แฮนด์ฟรี คือไม่ต้องใช้มือจับซึ่งจะเป็นการสะดวกสำหรับคุณแม่ที่ต้องปั๊มในเวลางาน จะได้ไม่ต้องเมื่อยจับกรวยตลอดเวลานั้นเอง
2. แรงดูดและรอบดูดของที่ปั๊มนมที่เลือก
คุณแม่หลายคนอาจจะต้องศึกษาลงลึกไปอีกหน่อยว่า รอบดูดและแรงดูดของเครื่องเป็นอย่างไร ต้องเลือกที่เหมาะกับคุณมามากที่สุด โดยที่ค่ามาตรฐานของเครื่องปั๊มจะมีแรงดูดประมาณ 200 มิลลิเมตรปรอท และรอบดูดอยู่ที่ประมาณ 40-60 รอบต่อนาที เป็นการเทียบจากการดูดของทารกวัย 6-12 สัปดาห์ หาดคุณแม่เป็นคนที่มีน้ำนมเยอะก็สามารถใช้เครื่องที่มีรอบดูดต่ำกว่า 40 ครั้งต่อนาทีได้ แต่หากคุณแม่มองแผนแล้วว่าอยากจะปั๊มนมออกมาให้ลูกกินในระยะยาว ให้เลือกเครื่องที่มีรอบการดูดมากกว่า 40 ครั้งต่อนาทีจะทำให้น้ำนมออกได้ปริมาณมากกว่า
3. แหล่งพลังงานที่ใช้กับเครื่องปั้มนมที่ซื้อ
เครื่องปั๊มในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบใช้แบตเตอรี่ใช้แล้วทิ้ง ชาร์จจากไฟบ้าน หรือบางแบรนด์ใช้ได้ทั้งแบตเตอรี่และใช้ไฟบ้านในเครื่องเดียวได้เลย เครื่องปั๊มบางรุ่นมีสายชาร์จในรถยนต์แถมมาให้อีก เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องขับรถไปทำงานแล้วติดอยู่ในรถเป็นเวลานาน โดยที่การเลือกซื้อเครื่องปั๊มที่ชาร์จพลังงานแบบไหนก้ต้องแล้วแต่การใช้งาน เลือกให้ตรงความต้องการของคุณมากให้มากที่สุดจะดีกว่า หรือมีอีกแบบคือเครื่องปั้มนมแบบมือ คุณแม่ไม่ต้องชาร์จไฟหรือใช้แบตสำรองที่ไหนเลยแต่จะเมื่อยมือหน่อยเวลาปั๊มนมมือ เพราะต้องออกแรงบีบด้วยมือล้วน ๆ
4. เสียงการทำงานของที่ปั้มนมไฟฟ้า
คุณแม่บางท่านอาจจะสงสัยว่าเสียงเกี่ยวอย่างไร ? โดยปกติแล้วเครื่องปั๊มจะทำงานด้วยกลไกที่ทำให้เกิดเสียง เสียงที่ดังเกินไปอาจจะรบกวนเวลาพักผ่อนของลูกรัก เพราะต้องยอมรับว่าช่วงเวลาทองของการปั๊มนมนั้นต้องเป็นตอนลูกหลับ หรือหากต้องเอาเครื่องปั๊มออกไปทำงานแล้วเอาเครื่องออกไปด้วยเลือกเครื่องที่มีเสียงในการทำงานน้อยที่สุดจะได้ไม่เป็นการรบกวนคนรอบข้าง
5. บริการหลังการขาย
การบริการหลังการขายของที่ปั้มน้ำนมแต่ละแบรนด์ก็จะไม่เหมือนกัน ทุกที่จะมีการรับประกันสินค้าเหมือนกันต่างกันที่ระยะเวลา บางเครื่องมีประกันเพียง 3 เดือน , 6 เดือนหรือ 1 ปี บางแบรนด์ที่มีราคาสูง ๆ อาจจะมีประกันหลังการขายถึง 2 ปีเลยทีเดียว นอกจากประกันสินค้าแล้วการบริการของพนักงานขายก็สำคัญเพราะในการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมสักเครื่อง คุณแม่มีการศึกษาไปเองแล้วการซักถามจากพนักงานก็เป็นเรื่องที่คุณแม่สามารถทำได้เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อจะได้เครื่องปั๊มที่ถูกใจและตรงการใช้งานของคุณแม่ที่สุด
เรื่องที่คุณแม่ต้องรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนม
เครื่องปั้มนมไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี ? เป็นคำค้นหายอดฮิตที่คุณแม่มือใหม่ใช้ค้นหาในอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับข้อมูลของเครื่องปั๊มทั้งหลาย อีกอย่างที่สำคัญที่คุณแม่มีการค้นหาไม่น้อยไปกว่ากันคือ “อุปกรณ์ของเครื่องปั๊มนม” และอุปกรณ์ที่สำคัญนั้นคือกรวยในการปั๊ม คุณแม่ควรที่จะต้องเลือกกรวยที่มีความพอดีกับเต้านมของตัวคุณแม่เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายและไม่เกิดผลข้างเคียง ถ้าคุณแม่เลือกไม่เหมาะอาจจะทำให้หัวนมของคุณแม่เกิดแผลได้ ควรที่จะใช้เครื่องปั๊มนมที่สามารถปั๊มพร้อมกันทั้ง 2 ข้างพร้อมกันได้เพื่อประหยัดเวลาในการปั๊มนม หากคุณแม่ไม่ได้ใช้กรวยแบบแฮนด์ฟรีคุณแม่ควรที่จะมีตัวช่วยชั้นดีอย่างชุดชั้นในให้นมติดไว้ เพราะจะสามารถใส่กรวยปั๊มและล็อกได้ไม่ต้องใช้มือจับให้เมื่อย
การเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมสักเครื่องคุณแม่ควรจะต้องดูที่ ราคาของเครื่องที่ไม่แพงจนเกินไปหรือถูกจนน่าสงสัย เครื่องปั๊มนมยี่ห้อไหนดี สามารถอ่านได้ตามรีวิวและอินเทอร์เน็ตและดูข้อมูลที่ใกล้เคียงกับคุณแม่ให้มากที่สุด วิธีการใช้เครื่องก็สำคัญต้องมีการอธิบายชัดเจนด้วยภาษาที่คุณแม่เข้าใจเพื่อการใช้งานอย่างถูกต้อง และต้องดูไปถึงการทำความสะอาดและการดูแลรักษาว่าสามารถทำได้อย่างง่ายดายไหม ลดขั้นตอนในการใช้งานและการดูแลรักษา เพื่อที่คุณแม่จะได้มีเวลาให้ลูกรักอย่างเต็มที่นั้นเอง
