ip camera หรือก็คือ1 ในประเภทของกล้องวงจรปิดที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นิกจากความสามาถในการจับภาพ ดูแลความปลอดภัยแล้วยังได้รับการพัฒนาให้เป็นตาที่ 3 ที่มีความสามารถหลากหลาย มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์เพื่อผู้ใช้งานทุกรูปแบบ ครั้งนีเราจะพามาดูกันว่า เจ้ากล้องประเภทนี้มีความสามารถมากขนาดไหน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ
ip camera คือ อะไร ที่มาและการทำงานเจ๋งสมคำร่ำลือหรือไม่ ?
กล้องชนิดนี้นั้นถือเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นกล้องวงจรปิดรูปแบบหนึ่งที่ ย่อมาจากภาษาอังกฤษ คำว่า Internet Protocol Camera โดยมีพื้นฐานการทำงานที่คล้ายคลึงกับกล้องวงจรปิดที่เรารู้จักกันโดยทั่วไป นั่นคือ คือ เป็นอุปกรณ์ตรวจจับภาพเคลื่อนไหวและติดตั้งไวเพื่อระแวดระวังภัยให้กับสถานที่สำคัญ รวมถึงบ้านเรือน อาคาร คอนโดมิเนียมต่าง ๆ โดยความแตกต่างหนึ่งหของกล้องไอพี คือ การรวมเอสาความฉลาดของคอมพิวเตอร์เข้ามา กล่าวคือ สามารถส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และ Internet ได้ ผ่านทางระบบเว็บบราวเซอร์ (Web Browser)
ซึ่งความเหนือกว่านี้หมายถึง เราสามารถเห็นภาพเคลื่อนไหวของบริเวณที่เราต้องการดูจากสถานที่ใดก็ตามบนโลกนี้ที่มีระบบการทำงานของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้งานสามารถดูภาพแบบเรียลไทม์ สดทุกที่จากทั่วทุกมุมโลก
นอกจากนั้นกล้องชนิดนี้ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถสั่งงานควบคุมและบันทึกภาพได้ภายในตัว ไม่จำเป็นต้องต่อเข้ากับเครื่องบันทึกภาพ DVR (Digital Video Recorder) แล้วยิ่งในรุ่นใหม่ ๆ นั้นยังสามารถ จะรับและส่งข้อมูลภาพและเสียงได้พร้อมกันอีกด้วย
หลังจากที่เราเห็นความสามารถของอุปกรณ์ชนิดนี้กันแล้ว ถัดไปเรามาดูระบบการทำงานกันต่อเลยดีกว่า
กล้องวงจรปิด IP Camera แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. ชนิดรวมที่ศูนย์กลาง (Centralized) : เป็นชนิดที่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า NVR (Network Video Recorder) โดย NVR คือ จะทำหน้าที่บันทึกข้อมูลภาพวีดิโอลงในแหล่งเก็บข้อมูลหรือ ฮาร์ดดิสก์ ผ่านระบบ Internet นั่นเอง และให้ผู้ใช้งานควบคุม สั่งการ ตัวกล้องด้วย
2.ชนิดแยกจากศูนย์กลาง (Decentralized) : ชนิดนี้จะต่างจากด้านบนเพราะว่าจะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ NVR (Network Video Recorder) แต่อย่างใด เพราะว่าตัวกล้องเองสามารถที่จะจะบันทึกภาพได้โดยตรงเพื่อจัดเก็บข้อมูลดิจิตอล เช่น SD Card หรือ Network-attached storage (NAS)
ดังนั้นจะเห็นความต่างของ 2 ชนิดด้านบนจากการบันทึกข้อมูลแบบรวมศูนย์กลางกับแยกศูนย์กลาง ถัดมาจะเป็นชนิดของกล้อง IP Camera ที่แบ่งโดยใช้ประเภทการใช้งานเป็นเกณฑ์
ประเภทการใช้งานของไอพีคาเมร่า
1.กล้องวงจรปิดแบบกระบอก – Fixed Camera
เป็นชนิดที่มีจุดเด่น คือ เราสามารถเลือกเลนส์ได้ เพราะเลนส์กับกล้องแยกออกจากกัน อีกทั้งยังมีเลนส์ให้เลือกเยอะพอสมควร แบ่งออกเป็น Fix Lens และ Auto Iris
โดยแบบ Fix Lens จะมีขนาดให้เลือกที่ 3.6 มิลลิเมตร , 4มิลลิเมตร, 6 มิลลิเมตร ส่วน Auto Iris จะมีความสามารถหลากหลาย ภาพคมชัดสวยงามตลอดเวลา ปรับแสงต่าง ๆ ได้เอง ทำให้ราคาสูงพอสมควร
2.กล้องวงจรปิดแบบอินฟาเรด (Infrared Camera)
สิ่งที่เหนือกว่าและไม่มีใครทำได้ดีเท่าก็คือ ความสามารถจับภาพได้ในที่มืด แม้มีแสงน้อยมากก็สามารถจับภาพได้ แม้จะไม่คมชัด แยกรายละเอียดได้เท่าแบบอื่น แต่ถามสถานที่ที่มืดมาก ๆ เช่น ท้องถนนยามค่ำคืน กล้องชนิดนี้สามารถเป็ยยามรักษาการได้อย่างดี
โดยมี Lux ของแสง และ LED ที่จะเป็นนตัวเทียบว่าสามารถมองเห็นในที่มืดได้มากน้อยแค่ไหน
3. Dome Camera หรือกล้องวงจรปิดแบบโดม ลักษณะเด่นเลยคือรูปร่างที่เป็นครึ่งวงกลม เหมาะสกับการติดตั้งภายในสำนักงาน อาคารต่าง ๆ วัสดุมีทั้งทำมาจากพลาสติกรูปทรงโค้งสวยงามรวมถึงอะลูมิเนียม ที่มีความขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง จึงได้รับความนิยมไม่น้อย
กล้องวงจรปิดแบบสปีดโดม (Speed Dome Camera) หรือจะเข้าใจง่าย ๆ ง่าหมุนส่าย,ก้มเงย ข้อดีเด่น ๆ เลย คือ ปรับหมุนไปมาได้ ให้ก้มก็ได้ เงยก็ได้ อีกทั้งสามารถซูมดูได้ถึง 400-500 เมตร สามารถใช้ได้ทั้งภายนอกตลอดจนภายในอาคาร สำนักงาน หรือบริเวณที่ต้องการมองเห็นในระยะไกล ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา ทำให้เป็นอีกชนิดที่ราคาค่อนข้างสูง
เมื่อทราบรูปแบบการใช้งานแล้วถัดไปมาดูที่การติดตั้งกันบ้าง
การติดตั้ง IP Camera
หากเป็นการติดตั้งที่บ้านที่มีระบบเครือข่ายเรียบร้อยแล้ว เราสามารถดำเนินการโดยการต่อสาย Lan กับกล้องวงจรปิดไอพี เสียบไฟเพียงเท่านี้เราก็สมารถติดตั้งได้โดยง่าย จากนั้นก็เหลือเพียงการตั้งค่าต่าง ๆ ของตัวกล้อง
จุดเด่นของกล้องไอพี
1. มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่น ทำให้กล้อง IP แต่ละตัว มีราคาที่สูง
2. สะดวกในการติดตั้งเพราะใช้สายน้อยและติดตั้งง่าย
3. ไม่ต้องอาศัยเครื่อง DVR
ถ้าใช้หลายตัวมาก ๆ จำเป็นต้องมีการวางแผนระบบ network อย่างดี
สรุป กล้องไอพีหรือ IP Camera เป็นกล้องที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบโจทย์คือสามารถเห็นสถานที่ที่เราติดตั้งกล้องได้จากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าเราจะอยู่ที่แห่งหนไหน ขอแค่เพียงมีระบบอินเตอร์เน็ตก็เห็นภาพได้ชัดเจน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภมของตัวกล้องที่เราเลือกใช้งานด้วย